24ชม.ไฟนรกยังไม่ดับ “ชัชชาติ” สั่งตั้งศูนย์บัญชาการ


Phetchanเผยแพร่เมื่อ : 12 พ.ค. 2568, 09:36กรณีเพลิงไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ KING (บริษัท สยามเฮ้าส์ แอนด์ โฮม จำกัด) ซ.ฉลองกรุง 55 แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ตั้งแต่ช่วง 16.45 น.วันที่ 11 พ.ค.68 ก่อน เจ้าหน้าที่ระดมกำลังรถดับเพลิงไม่ต่ำกว่า 30 คัน พร้อม ทีมกู้ภัยอีกนับร้อยชีวิตควบคุมสถานการณ์ผ่านไปแล้วกว่า 14 ชั่วโมง ยังต้องประเมินสถานการณ์เป็นระยะ เนื่องจากยังมีไฟปะทุออกจากพื้นที่ชั้นใต้ดินของโครงสร้างอาคารโรงงาน ขณะเดียวกันได้มีการสั่งอพยพชาวบ้านใกล้เคียงให้ออกห่างจากพื้นที่ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นช่วง 08.00 น.วันที่ .12 พ.ค.68 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านอาคารโรงงานอุตสาหกรรม และกำลังตำรวจ พร้อมทีมกู้ภัยเข้าตรวจสอบความคืบหน้าในการควบคุมสถานการณ์เพลิงไหม้ และ ความเสียหายรอบพื้นที่โรงงานโดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ชุดตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ระบุว่า ต้นเพลิงอยู่ที่บริเวณชั้นใต้ดิน แต่ในขณะเข้าระงับเหตุยังไม่สามารถลงไปได้ เนื่องจากมีกลุ่มควันและความร้อนสูง จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์และเครื่องมือพิเศษ ตลอดจนหน้ากากออกซิเจน ให้เพียงพอกับเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ จึงจะควบคุมสถานการณ์ได้ดีกว่านี้ด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เผยว่า มอบหมายให้ ดร.สุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา(ดร.จอร์น) ประธานสภากรุงเทพมหานคร และนาย ธราพงษ์ เพ็ชรคง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตลาดกระบัง ลงพื้นที่ประสานงานเหตุการณ์ พร้อมตั้งศูนย์บัญชาการเหตุยังจุดเกิดเหตุส่วนแนวทางปฏิบัติการ เตรียมใช้โฟมประกอบน้ำ ระดมฉีดเข้าในจุดที่ยังคงมีเพลิงปะทุและความร้อนสูง ซึ่งคาดว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในวงจำกัดภายในช่วงเที่ยงวันนี้ส่วนพื้นที่ในโรงงาน ยืนยันว่า ไม่มีผู้ติดค้าง ผู้บาดเจ็บ หรือ ผู้เสียชีวิต เนื่องจากเหตุเกิดในช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์ หรือ วันหยุดยาวล่าสุด สำนักงานเขตลาดกระบัง ได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ และศูนย์ช่วยเหลือผู้พักพิง ที่ โรงเรียนลำพะอง โดยมี ชาวบ้านชุมชนริมคลองลำปลาทิว,ชุมชนวัดทิพพาวาส,ชุมชนทิวไผ่พัฒนา,รวมถึง หมู่บ้านหรูอีก 4 – 5 แห่ง มารวมตัว เพราะที่พักอาศัยได้รับผลกระทบจากความร้อนและกลุ่มควัน โดย ผู้ว่าราชการ กทม. ได้สั่งให้ เจ้าหน้าที่ ดูแลความเป็นอยู่ของกลุ่มชาวบ้านอย่างเต็มที่ พร้อมยืนยันว่า สถานการณ์จะคลี่คลายภายในวันนี้ขอบคุณภาพจาก : Fire & Rescue Thailand 

โศกนาฏกรรมสลด เสียชีวิตแล้ว 25 ราย บาดเจ็บพุ่งกว่า 800 คน

วันที่ 26 เมษายน 2568 เกิดเหตุระเบิดครั้งใหญ่ที่ ท่าเรือชาฮิด ราจี ซึ่งเป็นท่าเรือพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่สุดของอิหร่าน ใกล้เมืองบันดาร์อับบาส ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 25 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 800 คน ความรุนแรงของการระเบิดทำให้หน้าต่างและหลังคาของอาคารบริเวณใกล้เคียงได้รับความเสียหาย รถยนต์หลายคันพังยับ และประชาชนที่อยู่ไกลถึง 50 กิโลเมตรยังรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนจากเหตุการณ์นี้จากวิดีโอที่ได้รับการยืนยัน พบว่าเกิดเพลิงไหม้ก่อนจะเกิดการระเบิดขนาดใหญ่ ทำให้ผู้คนแตกตื่นวิ่งหนี บางรายบาดเจ็บนอนอยู่กลางถนนที่เต็มไปด้วยเศษซากการระเบิดและควันดำพวยพุ่ง ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ขณะเกิดเหตุ โกดังเต็มไปด้วยฝุ่น ควัน และขี้เถ้า จำไม่ได้ว่าหลบใต้โต๊ะเองหรือถูกแรงระเบิดกระแทกเข้าไป ภาพถ่ายทางอากาศเผยให้เห็นจุดเกิดไฟไหม้อย่างน้อย 3 จุด ซึ่งไฟได้ลุกลามจากตู้คอนเทนเนอร์หนึ่งไปยังอีกตู้หนึ่ง กระทั่งรัฐบาลต้องสั่งปิดโรงเรียนและสำนักงานในพื้นที่ชั่วคราวAmbrey Intelligence บริษัทวิเคราะห์ความเสี่ยงทางทะเล ระบุว่า เหตุเพลิงไหม้และระเบิดน่าจะมาจากการจัดการที่ผิดพลาดในการขนส่ง “เชื้อเพลิงแข็งสำหรับขีปนาวุธ” ของอิหร่าน โดยมีข้อมูลว่าเคยมีการขนถ่ายสารเคมีอย่าง โซเดียมเปอร์คลอเรต ซึ่งใช้เป็นเชื้อเพลิงจรวด ที่ท่าเรือแห่งนี้เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ Financial Times ยังรายงานเพิ่มเติมว่า มีเรือ 2 ลำขนเชื้อเพลิงจากจีนมายังอิหร่านก่อนหน้านี้

ทางการอิหร่านเผยว่า ต้นเหตุของการระเบิดมาจากตู้คอนเทนเนอร์ที่ไม่ได้ปิดผนึกซึ่งเก็บวัสดุไวไฟอยู่ และเหตุเพลิงไหม้ได้ลุกลามไปยังโกดังเก็บสารเคมีและวัสดุอันตราย โดย องค์การป้องกันภัยพิบัติแห่งชาติของอิหร่าน เคยมีคำเตือนไปยังท่าเรือให้เพิ่มความเข้มงวดในการจัดเก็บสารเคมีแล้วก่อนหน้านี้อย่างไรก็ตาม บริษัทน้ำมันแห่งชาติของอิหร่านยืนยันว่า เหตุระเบิดดังกล่าวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโรงกลั่นน้ำมัน ถังเชื้อเพลิง หรือระบบท่อส่งน้ำมันของประเทศ ขณะที่ ประธานาธิบดีมาซูด เปเซซเคียน ได้แถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมสั่งการให้สอบสวนอย่างเร่งด่วน โดยมอบหมายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยลงพื้นที่ควบคุมการสอบสวนด้วยตนเองสำหรับท่าเรือชาฮิด ราจี ถือเป็นศูนย์กลางขนส่งทางทะเลที่สำคัญของอิหร่าน และตั้งอยู่บน ช่องแคบฮอร์มุซ เส้นทางเดินเรือหลักของการลำเลียงน้ำมันของโลก โดยตั้งอยู่ห่างจากเมืองท่าบันดาร์อับบาสประมาณ 20 กิโลเมตร และยังเป็นที่ตั้งของฐานทัพเรือหลักของกองทัพเรืออิหร่านด้วย